maltodextrin มอลโตเดกซ์ตริน100% / คาร์โบไฮเดรตเพิ่มน้ำหนัก
Attribute:
มอลโทเดกซ์ทริน (maltodextrin) DE10-12 ใช้เป็นสารเติมแต่งในอาหาร (Food Additive) ใส่เพือสร้างความหนืด หรือสร้างเนื้อให้อาหาร ทํามาจากแป้ง จะไม่มีรส หรือมีรสหวานเล็กน้อย มีลักษณะ เป็นผงหรือเกล็ดสีขาว มีความหวานอยู่ที DE-10-15 มอลโตเด๊กซ์ทริน จึงอยู่ในรูปของนําตาลกลูโคสหลาย ๆ โมเลกุลมารวมกัน โดยถูกจัดว่าเป็น คาร์โบไฮเดรตทีย่อยง่าย ซึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้แบบเดียวกันกับนําตาลกลูโคส ดังนันจึงมีการนําไปใช้เป็นส่วนผสมสําหรับผลิตภัณฑ์ทีให้พลังงาน ประเภทต่างๆ
Categories : All PRODUCT , All PRODUCT Food ,
Share
ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารอย่างขว้างขวาง ในผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารสําหรับ ผู้ที่ต้องการควบคุมนํ้าหนัก อาหารสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาหารไขมันตํ่า ในผลิตภัณฑ์อาหารแห้ง ประเภทอาหารผง เช่น เครื่องดื่มผง เครื่องปรุงรสชนิดผงฯลฯ
มอลโตเดกซ์ตริน (Maltodextrin) ช่วยปรับปรุงเนื้อไอศกรีมให้ข้น หนืดมากขึ้น เหมาะสำหรับไอศกรีมทุกชนิด โดยเฉพาะไอศกรีมเชอร์เบทและซอร์เบท์ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเกาะตัวกันได้ดีขึ้น และเจลาโต้ ที่จะทำให้ไอศกรีมข้นและเนื้อแน่นแห้งสวย
ส่วนใหญ่แล้ว ในวงการอาหารเสริมเพาะกาย จะนิยมใช้ที่ DE ต่ำๆตั้งแต่ 5-15
หากคุณทานเยอะๆนั่นหมายถึงว่ากำลังเพิ่มไขมัน แน่นอนว่ามัลโตเด็กตรินก็คือคาร์โบไฮเดรทชนิดหนึ่ง ที่ผ่านกระบวนการย่อยมาส่วนหนึ่งเท่านั้นการทานเข้าไปก็จะมีลักษณะคล้ายกับทานข้าวแบบ้านเรานี่แหละ นักเพาะกายส่วนมากที่ใช้เพราะเหตุผลว่าสะดวกสบายในการใช้ไม่ต้องกินให้อ๊วกแตกอ๊วกแตนเพียงแค่ดื่มลงไปก็พอ มัลโตเด็กตรินนี้ยังช่วยเรื่องของการดูดซึมสารอาหารอื่นๆเข้าสู่ร่างกายได้ไวด้วยนะโดยเฉพาะเมื่อเราทานเวย์โปรตีนเข้าไปจะช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนอย่างไวเลยล่ะ
ควรทานเท่าไหร่
คาร์โบไฮเดรตช่วยในการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก ดังนั้นเพื่อเติมเต็มไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ
ควรบริโภค 1 ช้อนตักขนาดใหญ่ (35 กรัม) ต่อน้ำ 150-250 มล. หรือเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ ภายใน 4 ชั่วโมงหลังออกกำลังกาย
จะเห็นผล เมื่อบริโภคคาร์โบไฮเดรตจากทุกแหล่ง ปริมาณรวม 4 กรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว โดยบริโภคภายใน 4 ชั่วโมงแรกและไม่เกิน 6 ชั่วโมงของการออกกำลังกาย
แต่!! ร่างกายแต่ละคนมีปัญหาและสรีระที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลตามต้องการและปลอดภัย
***ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการจะดีกว่าค่ะ***
